เครียดแค่ไหนก็รับมือได้! คู่มือขจัดความเครียดสำหรับน้องมัธยม
เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงวัยมัธยมศึกษาไม่ว่าจะตอนต้น หรือ ตอนปลาย น้อง ๆ มัธยมหลายคนก็คงได้พบเจอกับความเครียด ในเรื่องต่าง ๆ กันใช่มั้ยล่ะคะ ไม่ว่าจะเรื่องการปรับตัวใช้ชีวิต วิชาเรียนต่าง ๆ ภาระงานที่ได้รับ รวมไปถึงช่วงที่มีการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งการจัดการความเครียดนี้เองเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับที่น้อง ๆ วัยมัธยม ควรที่จะจัดการกับมันให้ได้ แต่น้อง ๆ ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ
วันนี้พี่ ๆ iBuddy+ ได้รวบรวม วิธีการจัดการความเครียดมาให้กับน้อง ๆ ในบทความนี้แล้วค่ะ ถ้าเราพร้อมที่จะพิชิตกับความเครียดกันแล้ว เริ่มไปพร้อมกันกับพี่ ๆ iBuddy+ กันเลยค่าา
1. ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
สิ่งแรกที่จะช่วยพาน้อง ๆ พิชิตความเครียดได้คือ การทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายไม่ว่าจะ วิ่ง เดิน หรือเข้ายิม เพราะ การออกกำลังกายจะปลดปล่อยสารเอ็นดอร์ฟินออกมา จึงสามารถช่วยลด ความเครียดให้กับน้อง ๆ ได้ แต่ถ้าน้อง ๆ คนไหนไม่ถนัดการออกกำลังกายหนัก ๆ การฝึกโยคะหรือการหายใจลึกๆ ก็ช่วยลดความเครียดได้เช่นเดียวกันนะคะ เพราะการฝึกโยคะจะช่วยให้ ร่างกายและจิตใจของเราสงบ และอีกแนวทางนึงก็คือ หางานอดิเรกที่เข้ากันกับเรา ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ ฟังเพลง เล่นดนตรี หรือทำอาหาร ไปจนถึง การดูหนังหรือฟังเพลงทำกิจกรรมศิลปะต่าง ๆ เป็นการใช้เวลาทำในสิ่งที่ชอบซึ่งจะช่วยน้อง ๆ คลายความเครียดลงได้นั่นเอง
2. ลองวางแผนและจัดการเวลา
สาเหตุความเครียดอีกอย่างนึงของน้อง ๆ หลายคนมาจาก การทำงานไม่ทันบ้าง อ่านหนังสือไม่ทันบ้าง หรือไม่มีเวลาส่วนตัวให้ตัวเองเลยในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นแล้วพี่ iBuddy+ จึงอยากให้น้อง ๆ ได้ลอง สร้างตารางเวลา ของตัวเองขึ้นมาค่ะ เพราะการมีตารางเวลาที่ชัดเจนจะช่วยให้น้องรู้ว่าเราต้องทำอะไร และลดความรู้สึกว่ายุ่งเหยิงหรือล้นหลามลงไปได้ค่ะ และต่อมาพี่อยากให้น้อง ๆ แบ่งงานออกให้เป็นส่วนเล็ก ๆ เพราะว่า การทำงานที่เป็นส่วนเล็ก ๆ นี่เองจะทำให้รู้สึกว่าเราจัดการงานต่าง ๆ ได้ง่ายและดีขึ้นน้าา
3. การพักผ่อนและนอนหลับเพียงพอ
จุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดีไม่ว่าจะทางกาย หรือ ทางใจ ล้วนมีพื้นฐานมาจากการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เพราะฉะนั้นการที่เราจะมีสุขภาพจิตที่ดี พิชิตความเครียด น้อง ๆ จะต้องมีการนอนหลับที่เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เนื่องจากการนอนหลับที่ดีจะช่วยให้สมอง ทำงานได้ดีขึ้น และช่วยลดความเครียดได้ดี การพักผ่อนอย่างต่อมา คือการพักผ่อนในระหว่างทำงาน พี่ iBuddy+ ขอแนะนำเทคนิค Pomodoro ให้น้อง ๆ ได้รู้จัก โดยเทคนิคนี้คือเราทำงาน 25 นาที แล้วพัก 5 นาที เพื่อช่วยให้น้อง ๆ มีพลังในการทำงานและลดความรู้สึกเครียดลงได้นั่นเองค่ะ
4. การพูดคุยและแชร์ความรู้สึก
เมื่อน้อง ๆ รู้สึกว่าความเครียดเริ่มมีระดับที่สูงขึ้น พี่ iBuddy+ ขอแนะนำให้น้อง ๆ ได้ลอง พูดคุยกับเพื่อน หรือคนในครอบครัวที่น้อง ๆ รู้สึกไว้ใจ การที่เราได้มีโอกาสแชร์ความรู้สึกและความกังวลกับคนที่ไว้ใจ จะช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้น หรือการเข้าร่วมกลุ่มกับกลุ่มคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน เช่น กลุ่มติวหนังสือ หรือกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆ จะช่วยทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและทำให้ลดความเครียดลงไปได้ค่ะ
5. ฝึกทักษะในการควบคุมอารมณ์
ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจสูงมากทีเดียวค่ะ ส่งผลให้น้อง ๆ มีอารมณ์ที่แปรปรวนได้ง่าย เพราะฉะนั้น การควบคุมอารมณ์จึงเป็นสิ่งที่เราควรทำให้ได้ พี่ iBuddy+ ขอแนะนำวิธีการฝึกควบคุมอารมณ์ให้น้อง ๆ ดังนี้ค่ะ อย่างแรกคือพี่อยากให้น้อง ๆ ได้ลองเขียนบันทึกขึ้นมาดูค่ะ เพราะการที่เราเขียนความรู้สึกลงในบันทึกจะช่วยให้เราได้ ระบายความเครียด และทำความเข้าใจกับความรู้สึกของตัวเองได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ต่อมาก็คือ การฝึกสติค่ะ เพราะการฝึกสมาธิหรือการมีสติจะช่วยให้เราสามารถอยู่กับปัจจุบันและลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตลงไปได้
6. การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมกับตัวเอง
อีกสาเหตุนึงที่ทำให้น้อง ๆ หลายคนประสบกับความเครียดนั่นก็คือการตั้งเป้าหมายที่เกินตัวเอง ไปสักเล็กน้อยค่ะ เพราะฉะนั้น พี่ iBuddy+ จึงอยากแนะนำให้น้อง ๆ ลองตั้งเป้าหมายที่สามารถทำได้ดูก่อนค่ะ เพราะการตั้งเป้าหมายที่มีความเหมาะสมกับตัวเองและสามารถบรรลุเป้าหมายได้ จะช่วยให้เราลดความรู้สึกเครียดลงจากการที่เราพยายามทำทุกอย่างในครั้งเดียว ต่อมา คือพี่อยากให้น้อง ๆ ให้ความสำคัญ กับความก้าวหน้า เพราะเราจะได้เรียนรู้ว่าการพัฒนาและความก้าวหน้าเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการบรรลุผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
7. การเรียนรู้เกี่ยวกับความเครียด
พี่ iBuddy+ อยากให้น้อง ๆ ได้เข้าใจว่าความเครียดนั้นเป็นเรื่องที่ปกติเลยค่ะ ให้เราเรียนรู้ว่าความเครียดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา และตัวเราสามารถจัดการความเครียดลงได้ อย่าหลีกเลี่ยงหรือหนีความเครียด แต่กลับกันเราควรที่จะเรียนรู้วิธีรับมือกับมันแทนค่ะน้อง ๆ
8. การขอความช่วยเหลือหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากความเครียดกลายเป็นสิ่งที่หนักหนาขั้นมากที่สุดจนลุกลามเบียดเบียนการใช้ชีวิตของน้อง ๆ อาจจะต้องพิจารณาในการพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เช่น นักจิตวิทยา หรือที่ปรึกษาอื่น ๆ เพื่อให้การสนับสนุนพลังใจเพิ่มเติมให้กับน้อง ๆ
การจัดการความเครียดเป็นเรื่องสำคัญที่น้อง ๆ ต้องฝึกฝนและปรับใช้ไปตามสภาพแวดล้อม และบุคลิกภาพของแต่ละคน พี่ ๆ iBuddy+ หวังว่าวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้น้องๆ สามารถจัดการความเครียด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีชีวิตที่สมดุลกันมากขึ้นนะคะ!