เปลี่ยนวันยุ่ง ๆ ให้เป็นวันชิล ๆ ด้วยทักษะการจัดการเวลา

สวัสดีค่ะน้อง ๆ ของพี่ iBuddy+ เรามาเจอกันอีกแล้วนะคะ วันนี้พี่ พี่ iBuddy+ ก็มีบทความดี ๆ มาฝากน้อง ๆ กันอีกเช่นเคยค่ะ สำหรับชีวิตวัยรุ่นวัยเรียนอย่างเรา แน่นอนว่าสิ่งที่เราต้องเจอในทุก ๆ วัน ก็คงหนี ไม่พ้นเรื่องเรียนหนัก การบ้านเยอะ สอบถี่ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องทำอีกมากมาย ถึงแม้เวลาของเรา ทุกคนล้วนมีเท่ากันวันละ 24 ชั่วโมง แต่บางคนกลับรู้สึกว่า มีเวลาไม่มากพอที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ตามที่ตั้งใจไว้ และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการจัดการเวลาสำหรับน้อง ๆ ม.ปลายเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน อีกทั้งยังช่วยสร้างสมดุลระหว่างการทำการบ้าน กิจกรรมโรงเรียน และเวลาส่วนตัวได้อีกด้วย ถ้าน้อง ๆ อยากเปลี่ยนวันยุ่ง ๆ ให้เป็นวันชิล ๆ นี่คือคำแนะนำจากพี่ iBuddy+ ให้น้อง ๆ นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกันได้เล้ยย!

1. วางแผนและตั้งเป้าหมาย
        อย่างแรกที่พี่อยากให้น้อง ๆ ทำคือให้น้อง ๆ ตั้งเป้าหมายให้มีความชัดเจน ไม่ว่าจะเป้าหมายระยะสั้น เช่น ทำการบ้านให้เสร็จภายในวันไหน หรือทบทวนเนื้อหาหลังเลิกเรียนแต่ละวัน หรือ เป้าหมายในระยะยาว เช่น วางแผนการเตรียมตัวในการสอบ การอ่านหนังสือและการทบทวน แต่ละวิชาให้เสร็จก่อนวันสอบ โดยเป้าหมายเหล่านี้จะช่วยให้เรารู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์นั่นเอง

2. สร้างตารางเวลา
        ข้อต่อมาคือพี่ iBuddy+ อยากให้น้อง ๆ สร้างตารางแบ่งเวลาในแบบฉบับของตัวน้อง ๆ เองค่ะ โดยให้เราแบ่งเวลาอ่านหนังสืออย่างสมดุล ด้วยการจัดเวลาให้กับการเรียนและการบ้าน หรือในวิชาที่ต้องการฝึกฝน เพิ่มเติม โดยแบ่งเวลาให้เหมาะสมสมดุลกันค่ะ และให้น้อง ๆ สร้างตารางเวลารายสัปดาห์หรือรายวันค่ะ จะเขียนมือบนกระดาษ แท็บเล็ต หรือใช้แอปพลิเคชันจัดการเวลาอย่าง Google Calendar, Notion, Bullet Journal เพื่อให้เราสามารถวางแผนตารางเวลาที่มีความชัดเจนได้นั่นเอง และที่สำคัญเลยน้อง ๆ อย่าลืม แบ่งเวลาสำหรับทบทวนเนื้อหาย้อนหลังและ ฝึกทำข้อสอบจำลองอย่างสม่ำเสมอกันด้วยนะคะ 

3. ใช้เทคนิคการจัดการเวลา
        พี่ขอแนะนำเทคนิค Pomodoro ให้น้อง ๆ ได้รู้จักค่ะ โดยเทคนิคนี้จะเหมาะกับการอ่านหนังสือหรือทำการบ้านโดยให้น้อง ๆ ตั้งเวลา 25 นาทีสำหรับการโฟกัสทำงานหรืออ่านหนังสือ จากนั้นให้น้อง ๆ ได้ พัก 5 นาที และเมื่อครบ 4 รอบ หรือ100 นาที ให้น้อง ๆ นั้นพักไปเลยยาว ๆ  15-30 นาที แต่อย่าเลยเถิดพักเกินไปนะคะน้อง ๆ เทคนิคนี้พี่ iBuddy+ ว่าจะช่วยให้เรามีสมาธิในการทำงานและลดความล้าลง เพราะเราได้พักเป็นช่วงๆนั่นเองค่ะ

4. ลำดับความสำคัญของงาน (Prioritization)
        หลังจากที่น้อง ๆ ได้ลองสร้างตารางเวลา และจัดการเวลาได้แล้ว ต่อมาพี่ iBuddy+ อยากให้น้อง ๆ ได้จัดลำดับความสำคัญของงานค่ะ พี่ขอแนะนำให้น้อง ๆ ได้ลองใช้วิธี Eisenhower Matrix ที่จะช่วยแบ่งงานออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภท คือ

        สำคัญและเร่งด่วน เป็นงานที่น้อง ๆ ควรจะทำทันที เช่น การบ้านหรือรายงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้

        สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน ให้น้องวางแผนการทำในระยะยาว เช่น เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย

        ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน เช่น งานที่สามารถมอบหมายหรือขอความช่วยเหลือจากเพื่อนได้

        ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน เช่น เล่นเกมหรือดูหนัง ซึ่งควรทำในช่วงที่ไม่มีงานสำคัญเร่งด่วน

        เพียงเราจัดลำดับความสำคัญของงานออกเป็นแต่ละประเภทแบบนี้แล้วจะช่วยให้เราค่อย ๆ ทำงานไปได้ อย่างไม่เร่งรีบ และจัดสรรเวลาได้ดีขึ้นนะคะ

5. จัดสรรเวลาสำหรับกิจกรรมพักผ่อน
        เมื่อน้อง ๆ แบ่งเวลาให้งานต่าง ๆ ไปกันแล้ว พี่ iBuddy+ ขอให้น้อง ๆ อย่าลืมแบ่งเวลาให้สำหรับตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าเราจะเรียนหนัก แต่เราก็ควรมีเวลากับกิจกรรมที่ชอบด้วย เช่น กีฬา ดนตรี หรือเวลาส่วนตัว เพราะการพักผ่อนจากกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มพลังและลดความเครียด หรือเป็นการใช้เวลากับครอบครัว หรือเพื่อนสนิทก็สำคัญ เพราะจะช่วยเสริมพลังและสร้างสมดุลให้ชีวิตของน้อง ๆ เองได้เช่นเดียวกันค่ะ

6. สร้างวินัยให้ตัวเอง
        การที่น้อง ๆ ได้ฝึกวินัยให้กับตัวเองจะช่วยให้ตัวเองทำตามแผนที่วางไว้ได้ดีมากยิ่งขึ้น และการยึดมั่นกับตารางเวลาของน้อง ๆ เอง จะเป็นการฝึกฝนให้เราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อเป้าหมายของตัวเองค่ะ

7. หมั่นทบทวนและปรับปรุงแผนการจัดการเวลา
        เมื่อเวลาผ่านไปครบ 1 สัปดาห์หรือ 1 เดือน ให้น้อง ๆ ลองตรวจสอบดูว่าตารางเวลาที่ตัวเองทำไว้ ได้ผลหรือไม่ อย่างไร และให้น้อง ๆ ลองปรับแผนให้เหมาะสมไปตามสถานการณ์ของแต่ละคน เช่น ปรับเวลาเรียนในวิชา ที่ไม่ถนัดมากขึ้น ลดเวลาในวิชาที่ถนัดอยู่แล้วลง

        และถ้าเราหมั่นจัดการเวลาเป็นประจำอยู่ทุกวัน จนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันแล้ว พี่ iBuddy+  เชื่อว่าน้อง ๆ ของพี่ทุกคนจะเป็นนักบริหารเวลาที่เก่งเลยค่ะ เพียงแค่เรารรู้จักแบ่งเวลาให้เป็นชีวิตของเรา ก็จะมีความสุขมากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีโอกาสประสบความสำเร็จ และสามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิต ได้ตามที่ตั้งใจไว้ได้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ ยังไงก็พี่ iBuddy+ อยากให้น้อง ๆ ลองทำตามทีละขั้นตอน และ ปรับให้เหมาะกับตารางเวลาและวิถีชีวิตของตัวเองกันนะคะ