ปล่อยอย่างไรให้พอดี? เทคนิคเลี้ยงลูกให้โตอย่างมีคุณภาพ
ไม่ว่าจะใครในโลกนี้เราทุกคนล้วนเคยเป็นลูกกันมาก่อนใช่ไหมคะ แต่ในทางกลับกันการที่เราจะเป็นพ่อหรือแม่คนนั้นถือเป็นบทบาทใหม่ของใครหลาย ๆ คน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะที่หลายครอบครัว ต้องขอคำแนะนำ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงลูก โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีลูกกำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น
ความเป็นพ่อแม่ถือเป็นทักษะที่จะต้องอาศัยการเรียนรู้และประสบการณ์มาก ๆ เลยค่ะ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนนำมาใช้กับการเลี้ยงลูกส่วนใหญ่แล้วเป็นสิ่งที่มาจากประสบการณ์จากตัวของ คุณพ่อคุณแม่เองที่เคยได้รับมาก่อน เช่น จากพ่อแม่ ปูย่าตายาย ครูอาจารย์ โดยสไตล์การเลี้ยงลูกจึงมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่ครอบครัว
ในปัจจุบันปัญหาระหว่างพ่อแม่และลูกวัยรุ่นส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องของการควบคุมและจำกัดอิสระ ของลูกวัยรุ่น เนื่องจากพ่อแม่หลายคนไม่เข้าใจธรรมชาติของลูกวัยรุ่น จึงใช้วิธีการเลี้ยงลูกแบบเดิม ที่เคยใช้เมื่อคราวที่ลูกอยู่ในวัยเด็ก ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจึงกลายเป็นว่า นอกจากลูกจะไม่เชื่อฟัง พ่อแม่เหมือนเดิมแล้ว ยังมักจะเกิดอาการต่อต้านต่อสิ่งที่พ่อแม่สอนหรือห้ามปรามเขานั่นเองค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ที่เข้ามาอ่านบทความก็อย่าเพิ่งหมดหวังกับการเลี้ยงลูกกันไปนะคะ หากคุณพ่อคุณแม่ มีความเข้าใจบาลานซ์ระหว่างอิสระและการดูแลในสิ่งต่อไปนี้ ibuddy+ ว่า การเลี้ยงลูกที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่น ก็จะไม่ใช่เรื่องที่ยากจนถึงขั้นต้องหนักใจของคุณพ่อคุณแม่ต่อไปค่ะ
การเลี้ยงลูกที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นด้วยการ "ปล่อย" หรือให้เขามีอิสระนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างนึงเลยค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องมีการสร้างขอบเขตที่เหมาะสมเพื่อให้เขาเติบโตได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย มีหลักการที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้ดังนี้ค่ะ
1. เปิดโอกาสให้ลูกได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง
เพราะเด็กวัยรุ่นจะเริ่มอยากทดลองตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ดังนั้น ควรให้โอกาสเขาในการตัดสินใจเรื่องเล็ก ๆ เช่น การจัดการตารางเรียน กิจกรรมที่เขาอยากทำ หรือการจัดการเงินส่วนตัว วิธีนี้จะช่วยให้เขาเรียนรู้การรับผิดชอบและคิดอย่างรอบคอบมากขึ้นด้วยค่ะ
2. สร้างขอบเขตและข้อตกลงที่ชัดเจนกับลูก
คำว่า "อิสระ" ไม่จำเป็นต้องหมายถึงการปล่อยอย่างเต็มที่นะคะ คุณพ่อคุณแม่ สามารถสร้างขอบเขตที่ชัดเจน และพูดคุยถึงข้อตกลงร่วมกันกับลูก เช่น เวลาในการกลับบ้าน การใช้โทรศัพท์มือถือ หรืองานบ้านที่ลูก ต้องช่วยเหลือ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่าอิสระมาพร้อมกับหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา
3. ให้โอกาสลูกในการทดลองและเรียนรู้จากความผิดพลาด
การปล่อยให้ลูกได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ เป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้เรียนรู้ว่าอะไรใช่หรือไม่ใช่ โดยเฉพาะถ้าสิ่งนั้นไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือสุขภาพของเขา เช่น การเลือกเรียน หรือทำกิจกรรมที่เขาสนใจ เพราะการเรียนรู้จากความผิดพลาดเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการเติบโต
4. คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี
การฟังโดยไม่ตัดสิน จะช่วยให้ลูกรู้สึกว่าเขาสามารถที่จะพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ได้ทุกเรื่อง พยายามแสดง ความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นหรือปัญหาของลูกแทนการแสดงความคิดเห็นหรือชี้นำในทันที วิธีนี้ช่วยสร้างความไว้วางใจและทำให้เขารู้ว่าคุณพร้อมเป็นที่พึ่งในยามลูกที่ต้องการ
5. สร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนความฝันของลูก
น้อง ๆ วัยรุ่นหลายคนมักจะเริ่มค้นหาตัวเองและอยากทำสิ่งที่เขาสนใจ คุณพ่อคุณแม่ลองสนับสนุนและเปิดโอกาสให้เขาได้ลองทำในสิ่งที่เขาฝัน เช่น การเรียนรู้ดนตรี ศิลปะ กีฬา หรือทักษะต่างๆ เพื่อให้เขาได้พัฒนาความสามารถและความมั่นใจในตัวเอง
6. แสดงความห่วงใยและสอนเรื่องความปลอดภัยให้กับลูก
แม้ว่าเราจะให้ความอิสระกับลูก แต่เรื่องความปลอดภัย เช่น การออกไปเที่ยว การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย หรือการเข้าสังคมกับเพื่อน คุณพ่อคุณแม่ยังคงต้องใส่ใจ ควรสอนและเตือนเรื่องความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อให้ลูกได้รู้จักการป้องกันตนเอง และหากเกิดเหตุไม่คาดคิดทำให้รู้ว่าเขาสามารถขอความช่วยเหลือ จากคุณผู้เป็นพ่อแม่ได้เสมอค่ะ
7. ไม่คาดหวังในตัวของลูกเกินไป
เด็กวัยรุ่นเขาจะมีความต้องการพื้นที่ในการทดลองและค้นหาตัวเอง คุณพ่อคุณแม่อย่าไปกดดันให้เขาให้ต้องสมบูรณ์แบบ หรือทำตามความคาดหวังของคุณพ่อคุณแม่ที่มากเกินไป เพราะอาจทำให้เขา รู้สึกเครียดและกดดัน การยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นจะช่วยให้เขารู้สึกมั่นใจและกล้าที่จะเป็นตัวเอง
การเลี้ยงลูกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นให้เกิดผลดีทั้งกับตัวลูกเองหรือผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างสมดุลระหว่าง การให้อิสระและการตั้งขอบเขตที่ชัดเจน โดยควรมีการสื่อสารที่ดีและการเปิดใจกับลูก เพื่อให้เขารู้ว่ายังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ข้างเขาเสมอ และพร้อมให้คำแนะนำในยามที่เขาต้องการนั่นเองค่ะ